::: รัตตัญญูเรเนียน ต่างกับ Uranian ทั่วไปอย่างไร ? :::

             ตามหลัก ฐานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งสามารถยืนยันชัดเจนได้ว่า สมการดาราศาสตร์- โหราศาสร์ ที่ได้มีการถ่ายทอดและค้นคว้า พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนถึงยุคปัจจุบันนั้น สืบทอดมาจากชนชาติกรีก ซึ่งก็หนีไม่พ้น โสเครติส อคีมีดีส และนิโคเปอร์นิคัส ฯลฯ ซึ่งนักปรัชญาการทั้งหมดที่ไปจากตะวันตำในอดีตล้วนเป็นพุทธศาสนิกชน ที่ได้ไปศึกษาศิลปวิทยาการที่ตักกะศิลา ชมพูทวีป และนำเอาสมการต่าง ๆ นั้นมาเผยแผ่ ในโลกตะวันตก แม้แต่ทฤษฏีประชาธิปไตย ก็ได้รับมาจากพระพุทธศาสนา ซึ่งโสเครติสได้นำมาใช้ในกรีกเป็นครั้งแรก เช่นกัน

             ในลักษณะของUranian จะเน้นในเรื่องของเชิงมุม และปฏิกริยาระหว่างดาว ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของศูนย์รังสี โค้งสุริยาตร์ ฯลฯ ซึ่งจะบอกรายละเอียดได้เพียงระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถชี้เฉพาะ ถึงเหตุการณ์ พฤติกรรม ไปยังตัวบุคคลนั้น ๆ ได้ แม้ว่าจะอยู่ในเชิงมุมเดียวกัน ก็ใช่ว่าทุกคน หรือ สรรพสิ่งนั้น ๆ จะมีปฏิกริยาเช่นเดียวกัน เปรียบให้เห็นง่าย ๆ ว่า วันนี้ฝนจะตกที่กรุงเทพฯ (เมื่อดาวทำมุมสัมปยุตกัน) ซึ่งก็ตกจริง แต่ไม่ใช่หมายถึงว่าทุกคนในกรุงเทพฯ จะเปียกฝนหมด ก็เปล่า บางคนก็ไม่เปียก เพราะอะไร ตรงนี้ Uranian ไม่สามารถชี้เฉพาะเจาะจงลงไปได้ จึงค้นคว้าพัฒนา หาทางแต่ก็ไม่ประสพผลสำเร็จ ซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้นาซีเยอรมัน ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญทางUranian มากมายนั้นต้องพ่ายแพ้สงครามอย่างหมดรูป นี่คือตัวอย่าง คำถามคือ เพราะอะไร ?

           คำตอบคือ !! ความติดยึดในหลักศาสนาที่แตกต่างมาแต่แรก เพราะโหราศาสตร์-ดาราศาสตร์นั้นสืบทอดมาแต่ครั้งก่อนพุทธกาลจากชมพูทวีป และเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า พระโหราจารย์ที่เชี่ยวชาญที่สุดคือ พระอัญญาโกทัญญะ ซึ่งได้ทำนายว่าพระพุทธองค์จะทรงออกผนวช และสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นไม่เป็นอื่น จึงออกบวชตามและสำเร็จเป็นพระสงฆ์รูปแรกของพระพุทธศาสนา และได้รับพุทธานุญาตให้สั่งสอนสืบทอดคัมภีร์โหราศาสตร์แก่ภิกษุทั้งหลาย เพื่อใช้ในการประกอบกิจของสงฆ์สาวกในพุทธศาสนา เช่นวันอุโบสถ วันเข้าพรรษา วันปาวารณา วันออกพรรษา วิสาขบูชา ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องคำนวณการโคจรของดวงดาว ดวงจันทร์ อาทิตย์ ฯลฯ ในสุริยจักวาล เพราะยุคนั้นไม่มีปฏิทินเช่นปัจจุบัน






             แต่ต่อมาถึงยุคโรมัน ได้มีการก่อตั้งคริสต์ศาสนา ได้มีการเปลี่ยนแปลงปลอมปนข้อมูลจริงแท้จนสัยสน แม้กระทั่งทฤษฏีเดิมว่าโลกกลม ก็ถูกเปลี่ยนเป็นโลกแบน วงกลมมี360 องศา ก็แต่งขึ้นใหม่ว่า วงกลมมี 365 องศา ใครไม่เห็นด้วยก็เป็นศัตรูพระเจ้า จับเผาทั้งเป็นคนตายเป็นล้าน วิทยาการแห่งโลกตะวันตกจึงเกาะติดกับตัวคำสั่งของคริสต์ศาสนา ชนิดไม่ลืมหูลืมตามองตามความเป็นจริง และก็ยังเป็นอยู่ ก็ถู ๆ ไถ ๆ บาดหลวงบางคนก็ศึกษาตำราจากชมพูทวีป เพื่อเกลื่อนกลืนแก้ไขปลอมปน กระทั่งบัดนี้วิทยาการที่แท้จริงจึงหาได้ยากยิ่ง ก็เกิดจากฝูงชนเหล่านี้

         รัตตัญญูเรเนียน เป็นวิทยาการที่ครอบคลุมทั้งทางพฤติกรรม และอุบัติกรรม ที่สามมารถคำนวณสิ่งจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยใช้สมการคำนวณจุดกรรม กุศล อกุศล ปฏิสนธิ จุติ คือให้รู้รากเง่าว่ามาจากไหน จะรับผลกรรมอะไร ที่ไหน เมื่อไร ซึ่งสามารถคำนวณได้อย่างถูกต้องตามกรรมของแต่ละคน เพราะใช้กรรมเป็นตัวกำหนดในกฏแห่งกรรม คือ กมฺมุนา วตตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เมื่อรู้ว่ากรรมในอดีตจะแสดงผลที่ไหนเมื่อไร ซึ่งย่อมแตกต่างกันไปตามแต่กรรมของแต่ละบุคคล (เป็นคำตอบที่ว่า กรุงเทพฝนตก แต่ใครจะเปียกบ้าง ได้อย่างถูกต้อง) แต่ก็สักแต่ว่ารู้ไม่อาจพ้นกรรมได้ ต้องปฏิบัติจึงจะหลุดพ้นกรรม คือ นิพพาน เท่านั้น


::: สรุปความว่า

- Uranian โดยทั่วไป ไม่อาจคำนวณ กรรม กุศล อกุศล ปฏิสนธิ และช่วงเวลา สถานที่ของบุคคลนั้น ๆ ได้ว่ากรรมจะแสดงผลที่ไหน? เมื่อไร? แต่ รัตตัญญูเรเนี่ยน สามารถคำนวณสิ่งที่กล่าวแล้วนั้นได้

- Uranian สามารถคำนวณจุดองศา ลิบดา ทางดาราศาสตร์ได้ ซึ่ง รัตตัญญูเรเนียน ก็สามารถคำนวณได้ และเมื่อนำมาประกอบกับเชิงมุม พิกัดทางดาราศาสตร์ ก็สร้างความถูกต้อง และพิสูจน์กฏแห่งกรรมได้อีกด้วย (ทั้งนี้ ผู้ที่จะสัมปยุต รัตตัญญูเรเนียน กับ Uranianสากล เข้าด้วยกัน ต้องผ่านการศึกษารัตตัญญุศาสตร์ภาคปฏิจจสมุปบาท มาแล้วจึงจะเข้าถึงสมการดังกล่าวนี้ได้)

               - ฉะนั้น รัตตัญญูเรเนียน จึงเป็นการก้าวข้ามมิติแห่งคำถามทั้งปวง เข้าสู่มิติแห่งการพิสูจน์ ความมีอยู่และกฏแห่งกรรม ตามพุทธดำรัสของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าเป็นสัจจธรรม พิสูจน์ได้อย่างไม่จำกัดยุคสมัย

                ท่านผู้สนใจศึกษา รัตตัญญูเรเนียน อย่างละเอียดลึกซึ้ง โปรดเริ่มแต่เบื้องต้นเพื่อความเข้าใจและใช้เป็นประโยชน์แก่สาธารณะชนสืบไป

ขอความสวัสดีจงมีแด่ผู้ใฝ่ใจศึกษาศิลปวิทยารัตตัญญูเรเนียน จงทุกท่านเทอญ